|

|
ดี เบอร์รี่ ไฟเบอร์ ( D-Berry Fiber ) |
ขนาดบรรจุ |
: 15 ซอง |
|
|
|
|
|
|
" ดีเบอร์รี่ ไฟเบอร์ ช่วยระบบขับถ่ายรายวัน " | | |
ส่วนประกอบที่สำคัญของ ดีเบอร์รี่ ไฟเบอร์
ไซเลี่ยมฮัสก์ |
5,500 mg. |
|
ผงบลูเบอร์รี่ |
800 mg. |
แคบเบจ พาวเดอร์ |
350 mg. |
|
คลอโรฟิลล์ |
12.5 mg. |
ฟรุคโต โอลิโกแซคคาไรด์ |
5,500 mg. |
|
ผงราสพ์เบอร์รี่ |
350 mg. |
วิตามินซี |
100 mg. |
|
กรดมาลิก |
9 mg. |
สารสกัดจากส้มแขก |
2,000 mg. |
|
ผงแคนเบอร์รี่ |
350 mg. |
สาหร่ายเคลป์ |
28 mg. |
|
ซูคราโลส |
5 mg. | |
 |
คุณประโยชน์ที่มีใน ดีเบอร์รี่ ไฟเบอร์
:: ไซเลี่ยมฮัสก์ ( Psylium husk ) |
สารสกัดที่ได้จากเปลือกไซเลี่ยมฮัสก์ เป็นเส้นใยอาหารชนิดที่ละลายน้ำ สารอาหารชนิดนี้ ไม่ก่อให้เกิดพลังงานใดๆ แต่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือช่วยในการควบคุมน้ำหนัก เพราะไซเลี่ยมฮัสก์สามารถพองตัว แทนที่ในกระเพราะอาหาร ทำให้อิ่มเร็วขึ้น รับประทานอาหารได้น้อยลง และช่วยระบบย่อยอาหารภายในลำใส้ได้ดีขึ้น ลดอาการท้องผูก ช่วยลดการดูดซึมของไขมัน |
ไซเลี่ยม หรือ Plantago ovata เป็นพืชที่พบได้มากในประเทศอินเดีย อิหร่าน ในประเทศไทย มีชื่อภาษาไทยคือ " เทียนเกล็ดหอย " ประโยชน์ต่อสุขภาพของพืชชนิดนี้ มีมากมาย และได้รับความสนใจจากนักวิจัยอยู่ไม่ขาดสาย |
เปลือกเมล็ด ไซเลี่ยม หรือ ( Psylium seed husk ) ไม่ได้ให้สารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายเหมือนพืชอื่นๆ แต่จะให้ใยอาหาร ( Fiber ) และ mucilage ( 10-30% ) เยื่อหุ้มเมล็ดของไซเลี่ยม มีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำ และของเหลว ช่วยในการระบาย เนื่องจากจะไปช่วยในการเพิ่มกากอาหาร ทำให้อุจาระอ่อนนิ่ม |
- จึงเหมาะสำหรับผู้มีปัญหาท้องผูก หรือเป็นโรคริดสีดวงทวาร
- ช่วยดูดซับน้ำตาลและไขมันไว้ จึงนิยมใช้ในโปรแกรมควบคุมน้ำหนัก หรือควบคุมระดับคอเรสเตอรอลในเลือด
- ช่วยกำจัดของเสีย และสารพิษต่างๆ ออกจากระบบทางเดินอาหาร
- ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย และการมีปริมาณน้ำในลำใส้มากเกินปกติได้
- ลดการเกิดลมในทางเดินอาหาร บรรเทาอาการจุกเสียดแน่นท้อง
|
:: ฟรุคโต-โอลิโกแซคคาไรด์ |
ฟรุคโต-โอลิโกแซคคาไรด์ เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง ที่ไม่สามารถถูกย่อยโดยเอนไซม์ของคนได้ แต่เมื่อลงไปถึงลำไส้ใหญ่ก็จะถูกย่อยโดยแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ เนื่องจากฟรุคโต-โอลิโกแซคคาไรด์ เป็นสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต จึงมีประโยชน์แก่ร่างกาย เช่นเดียวกับอาหารชนิดอื่นในหมู่เดียวกัน ความพิเศษ อยู่ที่ เมื่อลงมาถึงลำไส้ใหญ่จะเกิดกระบวนการหมักโดยอาศัยแบคทีเรียในลำไส้ กระตุ้นให้แบคทีเรียเจริญเติบโต เกิดก๊าซและกรดไขมันสายสั้นซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากนั้น ยังมีผลเพิ่มปริมาณกากอุจจาระและทำให้ขับถ่ายได้ง่าย สำหรับจุดเด่นอีกอย่างของ ฟรุคโต-โอลิโกแซคคาไรด์ คือ สามารถเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ ได้แก่ ไบฟิโดแบคทีเรียและแลคโตบาซิลลัส และช่วยลดปริมาณแบคทีเรียชนิดไม่ดีที่ก่อโรคได้ เพิ่มการดูดซึมแคลเซียมหากรับประทานในปริมาณที่มากพอเพิ่มภูมิต้านทานโดยเฉพาะกับเด็กเล็ก อีกประโยชน์ยอดฮิต คือ ช่วยเพิ่มการสร้างสารภูมิต้านทานต่อมะเร็ง ฟรุคโต-โอลิโกแซคคาไรด์ เรียกอีกอย่างว่า พรีไบโอติก พบได้ในอาหารประเภทข้าวสาลี หัวหอม กล้วย ฯลฯ นอกจากนั้น อุตสาหกรรมอาหารยังนำไปเสริมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ และให้เขียนข้างฉลากว่าสารนี้ เป็น ใยอาหาร เช่น สารแทนไขมันใน ครีม เนยแข็ง ไอศกรีม สารแทนน้ำตาลในช็อกโกแลต ผลิตภัณฑ์นม ขนมอบ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร |
|
:: บลูเบอร์รี่ ( Blue berry ) |
|
:: ราสพ์เบอร์รี่ ( Rasp berry ) |
- มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
- มีสรรพคุณบรรเทาอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสษ และมีคุณค่าทางผิวมากทีเดียว
- มีธาตุ โพแทสเซียม และเส้นใยอาหารสูง มีวิตามินเคหรือไบโอฟลาโวนอยด์ที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด และยังมีแมงกานีส ที่ช่วยในการทำงานของปฏิกิริยาเคมีในร่างกาย
- ช่วยทำให้ระบบประสาททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สารสีแดงในราสเบอร์รี่มีคุณสมบัติช่วยในการหมุนเวียนโลหิต อุดมไปด้วยวิตามิน เอ และ บี ช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส และสมานผิว
|
:: แครนเบอร์รี่ ( Cran berry ) |
- ช่วยลดการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ
- ช่วยบำรุงให้หัวใจแข็งแรงอยู่เสมอ และมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง
- ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆในร่างกาย
- ช่วยทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้นสดใสเพราะ แครนเบอรี่มีวิตามินซีอยู่สูงมาก
|
:: สารสกัดจากผลส้มแขก |
มีผลควบคุมไม่ให้ร่างกายเปลี่ยนแปลงน้ำตาลที่มีมากเกินความต้องการไปเป็นไขมันสะสมได้ โดยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ATP Citrate Lypase ช่วยในการยับยั้งกระบวนการผลิตไขมัน และคอเลสเตอเรลจากสารอาหารส่วนเกิน ไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ ไม่ส่งผลต่อระบบสมอง แต่อวัยวะทุกส่วนจะทำงานไปตามกระบวนการธรรมชาติ โฑดยดึงอาหารส่วนเกินก่อนถูกเปลี่ยนเป็นไขมันไปเพิ่มไกลโคเจนแทน เมื่อปริมาณไกลโคลเจนในร่างกายไม่เพียงพอ ทำให้ไม่หิวเมื่อไม่หิว ปริมาณการรับประทานอาหารก็ลดลง จึงไม่เกิดการสะสมของไขมันส่วนเกิน |
|
:: คลอโรฟิลล์ |
- คลอโรฟิลล์ที่ทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของสารก่อการกลายพันธ์และสารก่อมะเร็ง โดยโมเลกุลของ คลอโรฟิลล์จะจับตัวกับสารก่อการกลายพันธ์และสารก่อมะเร็งแล้วขับออกทางร่างกาย
- คลอโรฟิลล์ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระของร่างกาย อนุมูลอิสระเกิดจากกระบวนการ Metabolism ที่ไม่สมบูรณ์ของร่างกายการได้รับรังสีการสูดดมควัน เขม่าพิษ การออกกำลังกายที่หักโหมสารต้านอนุมูลอิสระจะทำลายอนุมูลอิสระโดยการจับกับอนุมูลิอสระลดการเกิดปฏิกิริยา ณ จุดตั้งต้น หรือยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่
- คลอโรฟิลล์ช่วยร่างกายนำออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ต่างๆได้เพิ่มขึ้น ทำให้ร่างกายนำออกซิเจน และสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายไปเลี้ยงเซลล์
- คลอโรฟิลล์ ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือด(Red Blood Cell) ในสภาวะโลหิตจางเม็ดเลือดแดง ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่จะทำให้ การนำพาและสะสมของออกซิเจนในร่างกายลดลงภูมิต้านทานของร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงเช่นเม็ดเลือดขาวชนิด T-Lympocyte มีจำนวนและการตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคลดลงคลอโรฟิลล์จะช่วยให้ภูมิต้านทานทำงานได้ดีขึ้น
- คลอโรฟิลล์จะช่วยในการรักษาแผล โดยคลอโรฟิลล์จะช่วยเพิ่มออกซิเจนให้กับแผลทำให้แผล หายเร็วขึ้นอีกทั้งช่วยลดการอักเสษของแผล
- คลอโรฟิลล์จะช่วยในการทำงานของระบบขับถ่าย ของร่างกาย โดยคลอโรฟิลล์จะช่วยให้ระบบขับถ่าย ของเสียทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดปัญหาอาการท้องผูก
- คลอโรฟิลล์ช่วยรักษาภาวะนิ่วชนิด Calcium oxalate stone โดยจะทำการยับยั้งการผลึกและยับยั้งการโตของผลึก
- คลอโรฟิลล์ ช่วยป้องกันร่างกายจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
- คลอโรฟิลล์ ช่วยลดปํญหากลิ่นตัวและลมหายใจที่ไม่สดชื่น
|
:: สารสกัดจากสาหร่ายเคลป์ |
เคล์ป คือสาหร่ายสีน้ำตาลมีขนาดยาวตั้งแต่ 10 ซม.-100 เมตร พบในทะเลน้ำลึกซึ่งเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ และเป็นเขตที่สะอาดปราศจากสารพิษที่ปนเปื้อนมาจากพื้นดิน ต่างจากสาหร่ายสไปรูรินาซึ่งเป็นเพียงสาหร่ายเซลล์เดียวขนาดเล็กที่ไม่ได้ อยู่ในทะเลน้ำลึก เคล์ปอุดมด้วยคาโบไฮเดรต กรดอมิโน วิตามินและแร่ธาตุมากกว่า 60 ชนิด ช่วยส่งเสริมการทำงานของต่อมไร้ท่อต่างๆ ในร่างกาย เช่น ืต่อมพิทูอิตารี ต่อมหมวกไต ต่อมไธรอยด์ เป็นต้น เคล์ปยังอุดทมไปด้วยธาตุไอโอดีนที่มีความสำคัญต่อการทำงานของต่อ มไธรอยด์ โดยเพิ่มการเผาผลาญสารอาหารต่างๆ (Metabolism) รวมทั้ง ไขมันให้พลังงานแก่ร่างกายเพราะฉะนั้น จึงช่วยลดการสะสมของไขมัน ส่วนเกินที่ไม่ต้องการได้ |
:: วิตามิน ซี Vitamin C บำรุงกระดูกและฟัน |
|